คลินิกหมอภัทรแพทย์แผนไทยรักษาสะเก็ดเงิน
หลายคนไม่รู้ว่า “ความเครียด” คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โรคสะเก็ดเงิน กำเริบได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสะเก็ดเงินที่หัว สะเก็ดเงินที่เล็บ หรือสะเก็ดเงินมือและเท้า ล้วนได้รับผลกระทบจากสภาวะทางจิตใจโดยตรง เพราะเมื่อร่างกายเกิดความเครียด ฮอร์โมนบางชนิดจะถูกหลั่งออกมามากเกินไปจนทำให้ระบบภูิมคุ้มกันทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนังเพิ่มขึ้น
เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ซึ่งในระยะสั้นอาจช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ แต่ถ้าความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มเสียสมดุล เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ทำให้ผื่นสะเก็ดเงินลุกลามหรือคันมากขึ้น
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา สะเก็ดเงินที่หัว มักพบผื่นแดงและรังแคจะหนาและคันขึ้นเมื่อมีภาวะเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพแ ส่วนผู้ที่มีสะเก็ดเงินที่เล็บ อาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนของสีเล็บ รอยบุ๋ม หรือเล็บเปราะง่ายขึ้นในช่วงที่มีความเครียดสูง
ในขณะที่สะเก็ดเงินที่ข้อศอกและสะเก็ดเงินที่ลำตัว มักมีอาการลอกหนา และคันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อฮอร์โมนความเครียดมากเกินไป
นอกจากผลทางกายแล้ว ความเครียดยังส่งผลต่อ จิตใจ อย่างมาก ผู้ที่มีสะเก็ดเงินที่หน้า มักรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องออกไปพบปะผู้คน หหรืออาจเกิดภาวะซึ่มเศร้าและวิตกกังวล โดยเฉพาะเมื่อผื่นขึ้นในบริเวณที่สังเกตเห็นได้ง่าย
ส่วนผู้ที่มีสะเก็ดเงินมือและเท้า มักเจอปัญหาในการทำงาน จับของหรือเดิน เพราะผิวหนังแห้งแตกจนเจ็บ ซึ่งยิ่งทำให้เครียดมากขึ้น และกลายเป็นวงจรซำ้เติมระหว่างความเครียดกับโรคสะเก็ดเงิน
การจัดการความเครียดอย่างถูกวิธีสามารถช่วยลดการกำเริบของโรคสะเก็ดเงินได้จริง โดยเฉพาะผู้ที่มีผื่นเรื้อรังบริเวณหัว ข้อศอก มือเท้า หรือเล็บ
ด้วยการทำสมาธิ โยคะ หรือฝึกหายใจลึกๆ เป็นประจำ จะช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสมดุลขึ้น
การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวันช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและลดการอักเสบจากโรคสะเก็ดเงิน
การเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยกระตุ้นการหลั่ง เอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขลดความเครียดได้ดี
คนเป็นสะเก็ดเงินห้ามกินอะไรหลายอย่าง เช่น ลดการดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และไม่เสพข่าวหรือสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวล
บริเวณ | ลักษณะอาการสะเก็ดเงิน | แนวทางดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงิน |
สะเก็ดเงินที่หัว | มีรังแคหนา คันและเป็นสะเก็ดบนหนังศีรษะ | ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ปราศจากซัลเฟต และหลีกเลี่ยงการเกาแรง |
สะเก็ดเงินที่เล็บ | เล็บเปราะ บุ๋ม หรือเปลี่ยนสี | หมั่นทาโลชั่นที่มีวิตามินอี และหลีกเลี่ยงการตัดเล็บสั่นเกินไป |
สะเก็ดมือและเท้า | ผิวแตก หนา และลอก | ทาครีมให้ความชุ่มชื้นบ่อยๆ และสวมถุงมือหรือถุงเท้านุ่มๆ |
สะเก็ดเงินที่ลำตัวและข้อศอก | ผื่นหนา แห้ง และคัน | ทาครีมหรือยาที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการขัดถูแรง |
สะเก็ดเงินที่หน้า | ผื่นแดงเห็นชัด ทำให้ขาดความมั่นใจ | ใช้สกินแคร์อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และปกป้องผิวจากแดด |
การรักษาโรคสะเก็ดเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับยาหรือการดูแลผิวเท่านั้น แต่จิดใจ ก็มีบทบาทสำคัญมาก การเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ฝึกสมาธิและรักษาความสมดุลระหว่างการทำงานกับการพักผ่อน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณควบคุมโรคนี้ได้ในระยะยาว
แม้โรคสะเก็ดเงินจะไม่สามารถหายขาดได้ 100% แต่การเข้าใจและดูแลตนเองอย่างถูกวิธีทั้งกายและใจ จะช่วยให้คุณใชชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุขในทุกวัน
