รู้จัก 'ยารักษาสะเก็ดเงิน' ประเภทต่าง ๆ วิธีเลือกให้เหมาะกับอาการของคุณ

ยารักษาสะเก็ดเงิน คือหนึ่งในวิธีการที่ใช้ในการควบคุมอาการของโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เซลล์ผิวหนังเจริญเติบโตเร็วกว่าปกติ 3-4 เท่า ส่งผลให้เกิดผื่นนูนแดงที่มีสะเก็ดสีเงินหรือขาวเกาะบนผิวหนัง พบได้บ่อยบริเวณศีรษะ ข้อศอก หัวเข่า และหลัง ซึ่งการรักษาสะเก็ดเงินต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมกับความรุนแรงของอาการเพื่อควบคุมและบรรเทาอาการให้ดีขึ้น

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ยารักษาสะเก็ดเงิน ประเภทต่างๆ และวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอาการของแต่ละคน

สาเหตุและปัจจัยกระตุ้นโรคสะเก็ดเงิน

สาเหตุหลัก เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเติบโตเร็วกว่าปกติ
ปัจจัยกระตุ้น ได้แก่ ความเครียด การติดเชื้อ อากาศหนาว อาหารบางประเภท แอลกอฮอล์ และการใช้ยาบางชนิด

ประเภทของยารักษาสะเก็ดเงิน

1. ยารักษาสะเก็ดเงินแบบใช้ภายนอก

เป็นตัวเลือกแรกในการรักษาสะเก็ดเงินที่มีอาการไม่รุนแรง ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการคัน ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง เช่น

คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ลดการอักเสบและอาการคัน มีทั้งแบบอ่อนและแรง
วิตามินดีสังเคราะห์ (Vitamin D Analogues) ช่วยลดอัตราการแบ่งตัวของเซลล์ผิวที่มากเกินไป เช่น Calcipotriol
ครีมให้ความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง ลดอาการคัน และช่วยเสริมประสิทธิภาพของยาอื่น ๆ

2. ยารักษาสะเก็ดเงินแบบรับประทาน

ใช้สำหรับที่มีอาการสะเก็ดเงินปานกลางถึงรุนแรง และไม่ตอบสนองต่อยาทา ซึ่งยาเหล่านี้มีผลต่อภูมิคุ้มกันและต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เช่น

Methotrexate กดภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ
Cyclosporine ยับยั้งระบบภูมิคุ้มกัน แต่มีผลข้างเคียงต่อไตและความดันโลหิต
Acitretin เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง

3.ยารักษาสะเก็ดเงินแบบชีวภาพ

ใช้สำหรับผู้ป่วยสะเก็ดเงินที่รุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ โดยยากลุ่มนี้จะทำงานโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น

กลุ่ม TNF inhibitors เช่น Etanercept, Adalimumab
กลุ่ม IL-17 inhibitors เช่น Secukinumab
กลุ่ม IL-23 inhibitors เช่น Guselkumab

4.การรักษาสะเก็ดเงินด้วยสมุนไพรไทย

เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการยารักษาสะเก็ดเงินแบบธรรมชาติและปลอดภัย ไร้สารสเตียรอยด์ ซึ่งทางคลินิกแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นตำรับยาที่มีผสมยาตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไปจะไม่นิยมใช้สมุนไพรเดี่ยวเช่น พลูคาว ตำรับยาสมุนไพรประกอบด้วยยาที่ช่วยในการบำรุงรักษาและป้องกันเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นศาสตร์โบราณของแพทย์แผนไทย โดยตำรับยาจะเป็นเฉพาะของแต่ละคลินิก ตัวยาที่ใช้จะช่วยปรับสมดุลเลือด น้ำเหลืองภายในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ไม่เน้นการกดภูมิคุ้มกัน แต่เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาใหม่

วิธีเลือกยารักษาสะเก็ดเงินให้เหมาะสมกับอาการ

การเลือกใช้ยารักษาสะเก็ดเงินควรพิจารณาจากระดับความรุนแรงของอาการโรคสะเก็ดเงิน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้

สะเก็ดเงินเล็กน้อย (อาการไม่รุนแรง) มีผื่นสะเก็ดเงินที่ไม่กว้างและไม่เกิดการอักเสบมาก สามารถใช้ยาภายนอกทา เพื่อรักษาสะเก็ดเงินได้ ลดการอักเสบและบรรเทาอาการคัน
สะเก็ดเงินปานกลาง (อาการปานกลางถึงค่อนข้างรุนแรง) มีผื่นสะเก็ดเงินที่กว้างขึ้น เห็นการอักเสบชัดเจน อาจต้องใช้ยารับประทารร่วมกับใช้ยาภายนอกในการักษาสะเก็ดเงิน
สะเก็ดเงินรุนแรง (อาการรุนแรงไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ) อาจต้องใช้ยากลุ่มชีวภาพในการรักษาสะเก็ดเงิน ซึ่งอาจมีผลต่อภูมิคุ้มกันโดยตรง

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการรักษาสะเก็ดเงินแต่ละแบบ

ยารักษาสะเก็ดเงินแบบใช้ภายนอก ใช้ง่ายผลข้างเคียงต่ำ แต่อาจไม่ได้ผลกับอาการรุนแรง
ยารักษาสะเก็ดเงินแบบกิน เห็นผลเร็ว ควบคุมอาการได้ดี แต่มีผลข้างเคียง ต้องติดตามการใช้ยา
ยารักษาสะเก็ดเงินแบบชีวภาพ มีประสิทธิภาพสูงสำหรับอาการสะเก็ดเงินแบบรุนแรง แต่มีราคาสูง และต้องฉีดโดยแพทย์
ยาสมุนไพรไทยรักษาสะเก็ดเงิน ปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่มีสารสเตียรอยด์ แต่อาจเห็นผลช้ากว่า ต้องใช้ความต่อเนื่องในการรักษา

แม้สะเก็ดเงินจะเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการใช้ยาและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ควรเลือกวิธีการรักษาตามความรุนแรงของอาการและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้ที่คลินิกหมอภัทร