คลินิกหมอภัทรแพทย์แผนไทยรักษาสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร

สำหรับโรคสะเก็ดเงิน ถ้าไม่มีปัจจัยกระตุ้นหรือส่งเสริมมากระทบก็จะไม่เกิดอาการของโรค ดังนั้นจึงควรสังเกตและพยายามจับให้ได้ว่าปัจจัยแวดล้อมอะไรทำให้โรคสะเก็ดเงินกำเริบ แล้วพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้โรคกำเริบ และไม่ให้เกิดโรคซ้ำขึ้นมาอีก

โรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร? สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคสะเก็ดเงิน สาเหตุอาจเกิดจากความผิดปกติของระบบ ภูมิคุ้มกันร่วมกับความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังมีการเจริญเติบโตเร็วเกินปกติ ในขณะที่ กระบวนการปกติจะใช้เวลา 28-30 วันเพื่อการเจริญเติบโตและผลัดเซลล์ออกไป แต่ในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน กระบวนการนี้จะเร่งขึ้นเหลือเพียง 2-3 วัน ทําให้ผิวหนังหนาตัวและเกิดสะเก็ดมาก

ปัจจัยหลายอย่างที่อาจกระตุ้นการเกิดโรคสะเก็ดเงิน ได้แก่

1. การเสียดสี การกระทบกระแทก การแกะเกาบาดแผล: การที่ผิวหนังถูกกระตุ้นจากภายนอก เช่น การเสียดสีจากเสื้อผ้า การถูกบาดเจ็บ หรือการเกาผิวหนัง อาจทําให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นให้เกิดสะเก็ดเงินใน บริเวณที่ได้รับการกระทบกระแทก

2. สิ่งแวดล้อม: การสัมผัสกับสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นเกินไป รวมถึงการอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัดหรือ การโดนแมลงสัตว์กัดต่อยสามารถกระตุ้นให้โรคสะเก็ดเงินกําเริบหรือมีอาการรุนแรงขึ้น

3. ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: ความเครียดทางจิตใจสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันใน ร่างกายให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้โรคสะเก็ดเงินมีอาการกําเริบขึ้นได้ นอกจากนี้การนอนไม่เพียงพอหรือการ พักผ่อนไม่เพียงพอก็อาจเป็นปัจจัยที่ทําให้โรคกําเริบ

4. การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของ โรคสะเก็ดเงิน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีประวัติของโรคนี้

5. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด: ยาบางประเภทสามารถทําให้เกิดอาการกําเริบของโรคสะเก็ดเงิน เช่น ยาลดความดันเบต้า, ยาจิตเวช, ยาต้านมาลาเรีย, ยากลุ่มเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta-blockers), และยาลิเทียม (Lithium) ซึ่งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและสามารถกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเจริญเติบโตเร็วขึ้น

6. พันธุกรรม: การมีประวัติครอบครัวที่เป็นโรคสะเก็ดเงินถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญ โดยมีการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีญาติใกล้ชิดเป็นโรคสะเก็ดเงินมักจะมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคนี้

7. การติดเชื้อไวรัส: การติดเชื้อบางประเภท เช่น ไวรัสเอชไอวี (HIV), ไวรัสเอชพีวี (HPV), และไวรัสตับ อักเสบซี (HCV) สามารถทําให้ระบบภูมิคุ้มกันทํางานผิดปกติ ซึ่งอาจกระตุ้นการเกิดโรคสะเก็ดเงินได้

8. การติดเชื้อแบคทีเรีย: แบคทีเรียบางชนิด เช่น สเตปโตคอคคัส (Streptococcus) ซึ่งมักพบในระบบ ทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เจ็บคอและทอนซิลอักเสบ ก็อาจกระตุ้นให้เกิดโรคสะเก็ดเงินได้เช่นกัน เนื่องจากระบบ ภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นจากการติดเชื้ออาจนําไปสู่การเกิดการอักเสบที่ผิวหนัง

ทุกปัจจัยเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคสะเก็ดเงินได้หรือทําให้อาการที่มีอยู่แล้วกําเริบขึ้นได้ นอกจากนี้ยังพบว่าอาการของโรคสะเก็ดเงินมักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การรักษาสุขภาพจิตที่ดี การ หลีกเลี่ยงความเครียดและการพักผ่อนให้เพียงพอ จะสามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การใช้ยาอย่างระมัดระวัง การหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการดูแลผิวให้ดี จากการสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นโรค ก็เป็นสิ่งสําคัญในการควบคุมอาการและการป้องกันไม่ให้โรคกําเริบ

แม้ว่าโรคสะเก็ดเงินยังไม่สามารถรักษาหายขาดได้ แต่การเข้าใจถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคจะช่วยให้ ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้โรคกําเริบได้ดีขึ้น การรักษาโรคสะเก็ดเงินมักจะเป็นการ ควบคุมอาการและบรรเทาอาการให้สงบ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดําเนินชีวิตประจําวันได้ตามปกติและลดความ รุนแรงของโรคลงได้